ไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวและเมนูอาหารการกินที่ต้องวางแผนเตรียมจดลิสต์แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่จะลืมไม่ได้เลยนั่นก็คือ “ของฝากและของที่ระลึก” ที่ต้องหิ้วหอบกลับมาเมืองไทย ทั้งฝากตัวเองและเพื่อน พี่น้อง คนรู้จัก ซึ่งที่ญี่ปุ่นนี้มีของให้ซื้อฝากหลากหลายชนิดมาก ทั้งขนม ของเล่น ของใช้ ที่บางอย่างก็มีคาแรคเตอร์เฉพาะแบบที่คนเห็นแล้วรู้เลยว่านี่มาจากญี่ปุ่น Expedia ขอพไปดูว่าทริปญี่ปุ่นครั้งนี้ จะซื้อของฝากอะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านดี
1. ขนมป๊อกกี้ (Pocky)
Credit Photo : https://chikodamanik.wordpress.com/2014/09/02/glico-pocky-japan
แบรนด์ขนมยอดฮิตที่มีต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าที่เมืองไทยก็มีขายเหมือนกัน แต่ที่ญี่ปุ่นนั้นมีรสชาติให้เลือกหลากหลายกว่า และเจ้า Pocky ของที่ญี่ปุ่นนั้นยังมีขนาดแท่งที่ใหญ่ยักษ์ บางรสชาติยังมีรสสัมผัสแบบกรุบกรอบเพิ่มความรู้สึกแปลกใหม่กว่าเดิมอีกด้วย และยังขยันออกรสชาติใหม่ ๆ มาเสิร์ฟอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลและช่วงเวลาพิเศษต่างๆ เช่น Pocky Blueberry Heartful, Pocky Chocolate Champagne และ Pocky midi Strawberry Fromage ส่วนสถานที่ที่สามารถหาซื้อขนม Pocky นี้ได้คือตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป ร้านขายของฝาก รวมถึงที่สนามบินด้วย
2. ผ้าเทนูกูอิ (Tenugui)
Credit Photo : https://matcha-jp.com/en/1343
ผ้าเช็ดหน้าแบบญี่ปุ่นอันผลิตจากผ้าฝ้ายที่มีความยาวถึง 90 ซม. ด้วยเหตุนี้เองทำให้ผ้านี้กลายเป็นผ้าสารพัดประโยชน์ที่นำมาใช้ได้ตั้งแต่เช็ดหน้า โพกหัว ห่อของขวัญ ห่อสัมภาระอย่างที่เราเคยพบเห็นกันในการ์ตูน ดังนั้นจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็นของฝากที่บ่งบอกความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างดีเยี่ยม เพื่อนๆ สามารถหาซื้อผ้าเทนูกูอิที่ว่านี้ได้ตามร้านขายของเอนกประสงค์ที่เรารู้จักกันดีอย่างไดโซะหรือตามร้านขายสินค้าของฝากในย่านใหญ่ๆ เช่น ย่านชินจูกุ (Shinjuku) ชิบูย่า (Shibuya)
3. กาชาปอง (Gachapon)
Credit Photo : https://metropolisjapan.com/gachapon
กาชาปองคือชื่อเรียกเครื่องเล่นหยอดเหรียญที่มีไข่อยู่ด้านใน ซึ่งภายในไข่จะบรรจุโมเดลต่างๆ ของเล่นชิ้นเล็กๆ พวงกุญแจ มากมายหลากหลายคาแรคเตอร์ให้ตามหยอดเหรียญมาสะสมกันแบบไม่หวาดไม่ไหว ซึ่งกาชาปองที่คุ้นหน้าคุ้นตากันก็อย่างเช่น กาชาปองสาวน้อยฟูจิโกะ (Fujiko) ผู้ที่ชอบเกาะอยู่ตามขอบแก้วน้ำของหนุ่มสาวชาวออฟฟิศนั่นเอง หรือกาชาปองรูปร่างแปลกๆ เช่น กาชาปองเทพีเสรีภาพในอิริยาบถแปลกตา กาชาปองน้องเห็ด ซึ่งถ้าใครอยากลองไปหยอดเหรียญหมุนไข่กาชาปองก็ลองเข้าไปตามร้านที่ขายสินค้าเกี่ยวกับอนิเมะ มังงะ เกม ต่างๆ รวมไปถึงคาเฟ่และแหล่งรวมตู้กาชาปองแถวๆ อากิฮาบาระ ชินจูกุ และย่านชื่อดังอื่นๆ ในญี่ปุ่น
4. มันฝรั่งทอด Calbee Jagabee
Credit Photo : https://www.amazon.com/Calbee-Potato-Sticks-Jagabee-Butter/dp/B005QK2BU6
มันฝรั่งแท่งทอดกรอบเกรดพรีเมี่ยม อีกหนึ่งขนมขึ้นชื่อจากเมืองฮอกไกโด รูปร่างเหมือนแท่งเฟรนซ์ฟราย ส่วนรสชาติก็มีหลากหลายให้เลือก ซึ่งหลักๆ ก็จะมีเกลือ สาหร่าย ชีส และเนย คลุกเคล้ามากับเจ้าตัวแท่งมันฝรั่งที่ทอดมาจนเหลือง เรียกว่าเคี้ยวกันเพลิน จะเป็นของฝากก็ถูกใจ จะหิ้วกลับไทยไปกินเองก็ถูกปาก หากใครไม่กลัวอ้วนก็ลองแวะหาซื้อกันได้ตามร้านซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป รวมถึงที่สนามบินก็มีด้วย
5. ขนมรูปไข่ไส้งาดำ (Goma Tamago)
Credit Photo : http://www.tenkai-japan.com/2011/04/09/popular-cake-shall-be-an-%E2%80%98incubator-of-reconstruction%E2%80%99
Goma Tamago เป็นขนมที่ทำจากแป้งเค้ก Castella ที่มีไส้ในสุดเป็นซอสงาดำที่ถูกล้อมไว้ด้วยงาดำกวนที่อัดแน่นแบบไม่ยั้ง ส่วนชั้นด้านนอกสุดเคลือบด้วยไวท์ช็อคโกแลตปิดท้ายอีกที ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลจะถูกปั้นเป็นก้อนกลมคล้ายกับไข่ ด้วยรสชาติที่เข้ากันดีอย่างไม่น่าเชื่อทำให้ขนม Goma Tamago กลายเป็นอีกหนึ่งขนมที่ใครหลายคนหาซื้อติดไม้ติดมือเป็นของฝาก ซึ่งมีขายเป็นจำนวนมากที่เมืองใหญ่อย่างโตเกียว
6. เยลลี่ผลไม้ ตราโคโรโระ (Kororo)
Credit Photo : https://directjapan.qoo10.com/item/UHA-TASTE-JAPAN-DIRECT-DELIVERY-CORO-FRUIT-JELLY-GUMMY-CANDY/485429161
เยลลี่รสผลไม้ที่กินเข้าไปแล้วแตกโพละในปาก รสชาติก็เหมือนทานเนื้อผลไม้จริงๆ ขนมยอดฮิตที่ซื้อง่ายขายคล่อง จนกลายเป็นของฝากคนอื่นและฝากตัวเองที่หลายคนเลือกซื้อจากญี่ปุ่น เพราะเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ใครๆ ก็ทานได้ เคี้ยวเล่นเพลินๆ ปากยามว่าง เรียกได้ว่าถูกใจจนขนกลับมากันเพียบ ส่วนรสชาติก็มีให้เลือกเยอะ เช่น องุ่นม่วง องุ่นเขียว ส้ม บลูเบอร์รี่ สตรอเบอรี่ แล้วถ้าลองแช่ตู้เย็นให้แข็งสักหน่อยก็เป็นเมนูดับร้อนได้ดีเลยทีเดียว ใครสนใจจะหาซื้อก็ต้องลองไปตามหาแถวร้านขายยาหรือร้านขายขนมกันดูนะ
7. ROYCE’
Credit Photo : https://www.scdcmalls.xyz/products-17556.html
ROYCE’ เป็นแบรนด์ช็อคโกแลตสดจากเมืองฮอกไกโดที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น เรียกว่าแขกไปใครมาก็ต้องหาซื้อติดกระเป๋ากลับบ้าน สิ่งที่ทำให้ช็อคโกแลต ROYCE’ เป็นหนึ่งในญี่ปุ่นก็เพราะรสชาติที่เนียนนุ่ม กลมกล่อม ละลายในปาก รวมถึงการพิถีพิถันเลือกวัตถุดิบอื่นๆ ที่จะนำมาผสมอย่างโกโก้ ถั่ว บรั่นดีที่คัดมาเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้ช็อคโกแลตรสชาติต่างๆ ที่อร่อยถูกใจคนทั่วโลกที่สุด และในบรรดาช็อคโกแลตทั้งหมด “โอเลต์ (Au Lait)” น่าจะได้รับความนิยมสูงสุด เพราะผลิตจากช็อคโกแลตนมชั้นเยี่ยม ซึ่งแหล่งที่สามารถหาซื้อ ROYCE’ ได้ก็มีอยู่ทั่วไปในญี่ปุ่น ทั้งห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาเก็ต รวมถึง Duty Free ที่สนามบินด้วย
8. KIT KAT
Credit Photo : https://www.cbsnews.com/news/japan-really-loves-kit-kat-bars
Kit Kat ก็เหมือนกับ Pocky ที่มีขายที่เมืองไทยเหมือนกัน แต่ที่ญี่ปุ่นนั้นก็จะพิเศษกว่าเอามากๆ เพราะเราสามารถหาซื้อ Kit Kat ได้หลายรสชาติมาก บางรสชาติก็เป็นลิมิเต็ดที่ผลิตขึ้นมาขายเฉพาะที่เมืองหรือภูมิภาคนั้นๆ หรือพิเศษขึ้นมาหน่อยถ้าบนกล่องมีคำว่า Kikan – Gentei ก็จะผลิตมาขายกันแค่ไม่กี่เดือน ถ้าพลาดก็ต้องรอกันไปยาวๆ หรือนั่งภาวนาว่าอนาคตจะทำออกมาขายอีก ดังนั้นถ้าเห็นที่ไหนก็รีบคว้ามาตุนไว้เลย ซึ่งเราสามารถหาซื้อเจ้าขนม Kit Kat ได้ตามร้านขายขนม หรือซุปเปอร์มาเก็ตทั่วทั้งญี่ปุ่น รวมถึงสนามบินด้วย
9. Premium Morning Tea
Credit Photo : https://www.suntory.co.jp/water/tennensui/premium_morning_tea/
ขวดน้ำใสๆ ที่ดูภายนอกแล้วเหมือนน้ำเปล่านี้ เริ่มฮิตกันมากเมื่อปีก่อน เพราะมันไม่ใช่แค่น้ำเปล่าธรรมดาอย่างที่คิด เพราะเมื่อได้ดื่มเข้าไปกลับกลายเป็นว่าเราได้ดื่มชานมแทน และไม่ใช่แค่รสชาติเท่านั้นที่เหมือน เพราะเมื่อเปิดฝาขวดมา กลิ่นชานมก็ลอยมาเตะจมูกกันเลยทีเดียว หากใครไม่เชื่อว่าเหมือนแค่ไหน ก็ต้องลองไปพิสูจน์กันได้ตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป และอย่าลืมแบกกลับไทยมาให้เพื่อนๆ ได้ลองทายกันเล่นๆ ดูด้วยนะ
10. ผลไม้ญี่ปุ่น
ผลไม้ที่ญี่ปุ่นตามฤดูกาลต่างๆ นั้นจะมีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย โดยเฉพาะสตรอเบอร์รี่ ที่ทั้งลูกใหญ่ ทั้งหวานฉ่ำชื่นใจ หากได้มีโอกาสไปเลือกซื้อจากสวนผลไม้โดยตรงก็จะได้ผลไม้ที่สดใหม่ แถมราคาก็ถูกกว่าในเมืองอย่างโตเกียวหรือโอซาก้า ซึ่งถ้าอยากซื้อหาเป็นของฝากหรือนำกลับเมืองไทยต้องรู้ไว้สักนิดว่า เมื่อมาถึงสนามบินผลไม้บางชนิดนั้นต้องสำแดงสิ่งของต่อพนักงาน โดยต้องกรอกใบสำแดงสิ่งของพวกพืชและผลิตภัณฑ์จากพืชแล้วนำไปยื่นที่เคาน์เตอร์ และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจทั้งหมดแล้วเราก็จะได้รับเอกสารกลับมาก็เป็นอันเสร็จสิ้น ถือของฝากกลับบ้านได้
เป็นยังไงกันบ้างสำหรับของ 10 อย่าง ที่น่าซื้อจากญี่ปุ่น ที่ Expedia ได้แนะนำกันไป ถ้าใครได้มีโอกาสจัดทริปญี่ปุ่นละก็ ขอกระซิบว่าต้องพกเงินไปเยอะสักหน่อย เพราะมีแต่สินค้าน่าซื้อทั้งนั้นเลยละ