ในประเทศณี่ปุ่น มีสถานที่มากมาย ที่ชื่อเล่นว่า “ลิตเติ้ลเกียวโต” เพราะที่เหล่านั้นได้ถ่ายทอดบรรยากาศของเกียวโต ทั้งบรรยากาศของเมือง ที่เหมือนกับว่าคุณได้หลงไปอยู่ในสมัย Edo แดนซามูไร เมื่อคุณมาเยือนที่เหล่านี้แล้ว คุณจะได้สัมผัสว่ารู้สึกอาศัยอยู่โดยการแต่งตัวย้อนอดีต ในที่เมือง “ลิตเติ้ลเกียวโต(Little Kyoto)” ในเมือง Kyushu เหล่านี่เลย!

1. Kitsuki, Oita

คิสึกิ(Kitsuki) เมืองเล็กๆทางตอนเหนือของจังหวัดโออิตะ ตั้งอยู่ในเขตภูมิประเทศที่เป็นเนินและหันหน้าไปทางอ่าวเบปปุ ครั้งหนึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองแห่งปราสาทในยุคสมัยนาระและเฮอัน ซึ่งยังคงหลงเหลือเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณ อย่างพวกโครงสร้างต่างๆ บ้านพักซามูไร หรือบ้านพักของพวกพ่อค้าวาณิชที่ถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างดีจวบจนกระทั่งปัจจุบัน นอกจากนี้ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ แวดล้อมไปด้วยขุนเขาและท้องทะเล รวมทั้งมีสัตว์หายากอย่างแมงดาทะเลและอื่นๆอาศัยอยู่อีกมากมาย

เดินเล่นรอบเมืองในชุดกิโมโน! คือประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง โดยเฉพาะร้านเช่ากิโมโน “วารากุอัน”(Waraku-an) ที่อยู่หน้าที่ว่าการเมือง จะจัดให้ตามความต้องการของคุณทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นการเช่าร่มแบบญี่ปุ่น กระเป๋า และเครื่องประดับบนศีรษะ เพื่อให้ดูสมกับเป็นสาวญี่ปุ่นอย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้น และนอกจากในเรื่องของประสบการณ์แล้ว เหตุผลที่ควรใส่ชุดกิโมโนในคิสึกิก็คือ ถ้าคุณเข้ามาด้วยชุดกิโมโน คุณจะได้รับส่วนลดจากร้านอาหารและร้านค้าต่างๆมากมาย ไม่เพียงเท่านั้น การเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวสาธารณะต่างๆก็ยังฟรีอีกด้วย

2. Chiran, Kagoshima

หมู่บ้านซามูไรเก่าแห่งเมืองชิรัน (Chiran Samurai Residence) ตั้งขนานไปกับแม่น้ำฟุโมะโตะ มีฉากหลังเป็นภูเขาฮะคะตะ ในหมู่บ้านซามูไรจะมีสวน 7 สวนณี่ปุ่นที่สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ สวนญี่ปุ่น พิพิธภัณฑ์ต่างๆ คูคลองที่ใสสะอาดมีปลาคาร์พว่ายวน แกลเลอรี หรือจะแวะรับประทานอาหารในร้านที่เคยเป็นบ้านพักของซามูไรก็ได้เช่นกัน

สวนณี่ปุ่นทั้ง 7 มีค่าเข้ารวมกัน 500 เยน ถ้าหากได้ลองมาเดินเล่นสถานที่แห่งนี้แล้วล่ะก็ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปช่วงสมัยเอโดะโบราณเลยล่ะ

3. Hita, Oita

หมู่บ้านมาเมดะ ตั้งอยู่ในตอนเหนือของเมือง Hita หมู่อาคาร สถาปัตยกรรมเก่าแก่ในเมืองนี้ถูกสร้างตั้งแต่สมัยเอโดะได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี บางหลังได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านค้าและร้านอาหารสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ สินค้าสำคัญได้แก่ รองเท้าเกี๊ยะ ที่มีการจัดแสดงรองเท้าเกี๊ยะที่ใหญ่ที่สุดในโลก เหล้าสาเก ซอสโชยุ

4. Obi, Miyazaki

ในยุคสมัยก่อน ตระกูลโอบิ ได้สร้างปราสาทแห่งนี้ขึ้นมาด้วยหินทั้งหมดกว่า 57,000 ก้อน กำแพงหิน และบันไดหินกว้าง คูน้ำ ภาพของซามูไร และศาลเจ้า ชวนให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ประตูหน้า ได้รับการบูรณะโดยใช้ไม้โอบิซีดาร์ ปราสาทโอบิได้ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่สำคัญในการเก็บรักษาเป็นมรดกวัฒนธรรมของประเทศ

5. Akizuki, Fukuoka

ปราสาท Akizuki นี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1203 ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทขนาดเล็ก มีเนื้อที่ไม่กว้างขวางซักเท่าไหร่ ในอดีตเคยเป็นค่ายทหาร ด้วยความที่ตัวปราสาทแห่งนี้ถูกล้อมรอบด้วยธรรมชาติ จึงมีบรรยากาศให้ชวนหวนรำลึกถึงบรรยากาศเมืองปราสาทโบราณ ถึงแม้ปราสาทจะไม่ใหญ่เหมือนกับปราสาทอื่นๆในญี่ปุ่น แต่ที่ปราสาทแห่งนี้ก็เป็น 1 ในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี (กลาง-ปลายพฤศจิกายน) เลื่องชื่อของจังหวัดฟุกุโอกะ นอกจากนี้ในฤดูใบไม้ผลิ ปราสาทแห่งนี้ยังเป็นจุดชมซากุระ (ปลายมีนาคม-ต้นเมษายน) อีกด้วย

6. หมู่บ้านโอคาวะชิยามะ (Okawachiyama, Saga)

หมู่บ้านแห่งความลับที่ตั้งอยู่ในเมืองซากะ เป็นที่ที่เก็บซ่อนความลับในเรื่องของเซรามิกเอาไว้
ช่างทำเซรามิกยอดฝีมือรวมตัวกัน บ่มวิชาความรู้ในหุบเขาแห่งนี้ และเพื่อป้องกันความลับทางเทคนิครั่วไหล ช่างที่เข้ามาในหมู่บ้านแห่งนี้จะไม่สามารถกลับออกไปข้างนอกได้ โดยการผลิตแต่ละครั้งจะใช้ช่างปั้น 31 คนผลิต ในหนึ่งเดือนจะผลิตได้เพียงแค่ 400 ชิ้น เพื่อคงคุณภาพที่ดีเอาไว้ ตั้งแต่ทางเข้า ท่านจะเห็นเซรามิก ลวดลายสวยงาม ถูกนำมาตกแต่งตามริมแม่น้ำ สะพาน และสถานที่ต่างๆ

หลังจากที่ได้เห็นสถานที่เหล่านี้แล้ว คุณกำลังรออะไรอยู่ ไปใส่ชุดกิโมโนและถ่ายรูปในเมือง ลิตเติ้ลเกียวโต กัน