บางคนทราบดีอยู่แล้วว่า ที่ๆเราจะมาแนะนำวันนี้คือที่ไหน นั่นก็คือ ดาไซฟุ (Dazaifu) และยานากาว่า (Yanagawa)

เมื่อมาเที่ยวที่ฟุกุโอกะ ทุกคนคงจะไม่พลาด 2 ที่นี้เป็นแน่แท้…บางคนได้มาเที่ยวแล้ว บางคนกำลังวางแผนที่จะมา วันนี้เราจะมาว่าบอกเรื่องที่คุณอาจจะยังไม่รู้ และบรรยากาศของ2ที่นี้ที่ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อเลย


รู้หรือไม่ รถไฟท่องเที่ยวในฟุกุโอกะ

ไปเที่ยว 2 ที่นี้ มีรถไฟพิเศษวิ่ง “Suito” วิ่งไปยานากาว่า กับ “Tabito” วิ่งไปดาไซฟุ

ภายในรถไฟตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น สะท้อนให้เห็นถีงบรรยากาศแบบท้องถิ่นของทั้งสองที่ และมีจัดแสดงของเก่าที่มีค่าทางประวัติศาสตร์ด้วย


แล้วก็เดินทางมาถึง ดาไซฟุ

จากสถานีก็มีร้านค้าสองข้างทาง เดินดูอะไรเพลินๆ ซึ่งมาที่นี่ต้องลองชิมขนมโมจิย่าง “Umegae-Mochi” และแวะถ่ายรูปที่ร้าน Starbucks ซึ่งแต่งร้านได้เก๋มากๆ

เดินตามทางมาเรื่อยๆก็จะเจอวัวแข็งแรง ผู้คนเข้าไปลูบขอพรให้มีโชคมีชัย ข้ามสะพานแดง 3 สะพานก็จะเจอทางเข้า

ศาลเจ้านี้มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องการขอพรในสอบผ่าน เพราะศาลเจ้านี้ได้สร้างขึ้นเพื่อบูชาท่านซุกะวะระ โนะ มิชิซาเนะ (Sugawara no Michizane) หรือที่รู้จักกันดีในฐานะเทพเจ้าแห่งการเรียนรู้และนักปราชญ์ ข้างๆศาลมีต้นบ๊วยชื่อว่าโทบิยูเมะ(Tobiume) แปลว่า ต้นบ๊วยบิน เพราะเชื่อว่าบินตามท่านซุกะวะระมาจากเกียวโตหลังท่านถูกเนรเทศมาที่นี่ ซึ่งต้นบ๊วยจะบานในช่วงปลายเดือนกุมพาพันธ์ถึงกลางเดือนมีนาคม เป็นจุดชมดอกบ๊วยที่สวยงามมากอีกที่หนึ่ง


เที่ยวดาไซฟุแล้วนั่งรถไฟไปต่อที่ ยานากาว่า

ยานากาว่า ได้ชื่อว่าเป็น เวนิซแห่งฟุกุโอกะ คือทั้งเมืองเต็มไปด้วยเรือล่องไปตามคูคลองรอบๆ คูคลองที่นี่ใช้ทั้งทางการคมนาคม อุปโภคและบริโภค สมัยก่อนมีการแบ่งเวลาในการใช้น้ำเหมือนกันบ้านเราเช่นกัน เช่นเวลาเช้าต้องรองน้ำไว้ดื่ม เวลาสายจึงสายซักล้าง

เมื่อมาถึงนี่แล้วก็ต้องนั่งเรือล่องคูคลองกันหน่อย

ระหว่างทางพ่อหนุ่มพายเรือของเราก็จะพาไป…ดูวิวสองข้างทาง ดูตึกรามบ้านช่องสไตล์ญี่ปุ่น แล้วพ่อหนุ่มก็จะร้องเพลงไปบ้าง ชิลๆ

ใครแวะมาที่ยานากาว่า จะไม่ควรพลาดทานข้าวหน้าปลาไหลของที่นี่ ซึ่งมีวิธีการปรุงไม่เหมือนที่อื่น เป็นเอกลักษณ์ของยานากาว่า

เป็นอย่างไรบ้างกับบรรยากาศที่เรานำมาฝาก…ใครมีอะไรสงสัย สอบถามได้เลยที่คอมเม้นข้างล่างนี้นะ