คาโกชิม่า(Kagoshima) จังหวัดทางใต้สุดของเกาะคิวชู เดินทางไปใจกลางเมืองคาโกชิม่าโดยรถไฟชินคันเซ็นจากฟุกุโอกะเพียง 1 ชม. 33 นาที
หรือเปลี่ยนเครื่องไปยังสนามบินนานาชาติคาโกชิม่าบินตรงจากโซล เซี่ยงไฮ้ ไทเปและฮ่องกง
หลายคนยังไม่รู้ว่าคาโกชิม่า มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง คราวนี้เราเลือกที่สามารถไปได้ง่ายๆหน่อย ไม่ต้องขับรถ หากใครวางแผนกำลังจะมาคิวชูลองดูเก็บไว้เลยจ้า…
เริ่มที่เมือง Ibusuki
1. นั่งรถไฟท่องเที่ยวพิเศษของเจอาร์ “Ibutama”
Ibutama หรือชื่อเต็มคือ Ibusuki no Tamatebako โดยชื่อขบวนได้มาจาก นิทานอันเก่าแก่ ที่มีเรื่องราวและต้นกำเนิดที่คาโกชิม่า
วิ่งจากสถานี Kagoshima Chuo ไปสถานี Ibusuki
รถไฟคันนี้เบาะที่นั่งจะหันเข้าสู่ทะเล เมื่อวิ่งไปใกล้ภูเขาไฟ Sakurajima ก็จะชลอความเร็วให้ชมวิว
เมื่อจอดเทียบชานชลาจะมีไอน้ำจำนวนมากพ่นออกจากปล่องรถไฟ
2. นั่งรถไฟไปสถานีรถไฟที่อยู่ใต้ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น
นั่งรถไฟไปสถานี Nishi-Oyama สถานี JR ที่อยู่ใต้สุดแดนปลาดิบ สถานีเล็กๆ ที่ไม่มีแม้แต่ตัวอาคาร ไม่มีช่องตรวจตั๋ว
ไม่มีเจ้าหน้าที่ แต่บรรยากาศดีวิวสวย รอถ่ายรูปรถไฟที่กำลังแล่นพร้อมฉากหลังเป็นภูเขา
3. อบทรายร้อนจากธรรมชาติริมทะเล
บอกเลยว่าเป็นอะไรที่ต้องลอง บรรยากาศดีมาก…ยิ่งอากาศเย็นๆ ริมทะเล ที่ทรายมีเป็นไอน้ำร้อนๆลอยขึ้นมา
เมื่ออบทรายแล้วแรกๆมันจะอึดอัด ร้อนมากและเหงื่อจะชุ่มไปทั้งตัว…. พอครบ 10นาที เราก็ลุกขึ้นมาด้วยสภาพที่เลอะเปอะทรายและรู้สึก โล่งงงงงงงงง ตัวมากๆ ตัวเบาเลย
ถ้าจะเอากล้องคิดมาด้วย จะมีพนักงาน ที่คอยบริการเอากล้องของเรา ถ่ายภาพของเราขณะอบทรายด้วย
กลับเข้าเมืองคาโกชิม่า
4. หาไรจิบที่ Yatai Mura
ถ้าใครชอบสไตล์บรรยากาศYataiของญี่ปุ่น บริเวณรวมร้านนั่งกินนั่งดื่ม หาไรจิบที่ Yataimura ได้เลย
5. ถ้าพูดเรื่องของกินแล้ว ต้องไม่พลาด หมีขาว และ หมูดำ
น้องหมีขาว หรือ Shirokuma เมนูของหวานน้ำแข็งใสลือชื่อของ Kagoshima น้ำแข็งใสทำจากนมราดนมข้นและผลไม้ประจำฤดู และอีกอย่างที่พลาดไม่ได้คือ หมูดำ Kurobuta นื้อหมูมีมันบางๆ เข้าไปแทรก นุ่ม ให้สัมผัสการเคี้ยวที่ดี ไม่ว่าจะไปทำเป็นราเมนคาโกชิมะที่ใช้คุโรบุตะย่างกับน้ำซุปกระดูกหมู หรือชาบูชาบู หรือหมูชุบเกล็ดขนมปังทอด(ทงคัตสึ)ก็อร่อย (น้ำลายไหล)
6. สัญลักษณ์ของเมืองคาโกชิม่าก็คือ ภูเขาไฟ Sakurajima
ไม่ว่าจะไปชมวิวเมืองจากจุดชมวิว Shiroyama จุดชมวิวหลักของภูเขาไฟSakurajima ซึ่งเป็นไฮไลท์ของเมืองนี้
บางคนไปไม่เห็นควันอะไร เห็นภูเขาไฟนี้เห็นอยู่ใกล้ๆเมือง อย่าคิดว่ามันจะสงบเสงี่ยมหลับไหล
ภูเขาไฟSakurajima นั้นยังปล่อยควันออกพอหอมปากหอมคอทุกวัน
7. ขึ้นมาชมความอลังกาลของภูเขาไฟใกล้ๆ
นั่งเรือเฟอร์รี่ไปเพียง 15 นาที และนั่งรถบัสไปที่จุดชมวิวยูโนะฮิระ(Yunohira Observatory) ประจันหน้ากับภูเขาไฟ Sakurajima แบบใกล้ชิด
ภายในเกาะ Sakurajima ยังมีที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ใครสนใจก็สามารถนั่งรถบัสแบบวนรอบเกาะได้ด้วยเหมือนกัน
8. สวนญี่ปุ่นที่มี ภูเขาไฟSakurajima อยู่เป็นพื้นหลัง
สวน Sengan-en นี้เป็นสถานที่พักตากอากาศของตระกูล Shimizu สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1658 และในปี 1958 ได้ขึ้นชื่อเป็นโบราณสถานสำคัญของประเทศญี่ปุ่น
ถ้าพูดถึงที่นี่ ก็ต้องมาเก็บภาพสวนญี่ปุ่นที่มีภูเขาไฟซากุระจิมะเป็นแบล็คกราวน์ รายล้อมไปด้วยทะเลสีคราม
แต่ไม่ใช่เพียงเท่านั้น เดินเข้ามาเรื่อยๆ ถึงกลางสวนจะเจอกับศาลเจ้าแมว (Cat Shrine) และร้านเครื่องแก้วพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อของจ.คาโกชิม่า
ที่นี่เวลาเปิด-ปิด : 8.30 น. – 17.30 น. และค่าเข้าชม : สวนและพิพิธภัณฑ์ 1,000 เยน
9. ขาดไม่ได้เรื่องช็อปปิ้ง
ถนนเทนมงคัง (Tenmonkan shopping arcade) ถนนเส้นยาวมีหลังคาและร้านขาเต็ม2ข้างทาง
ข้างๆนี้จะมีห้างYamakataya เป็นห้างที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง พวกของแบรนด์เนมแพงๆที่นี่มีหมด
อีกที่ๆคุณไปสำรวจได้ คือ สถานี Kagoshima Chuo ที่นี่เป็นแหล่งของกิน และของฝากต้องเดินไปตึกข้างๆ ห้าง AMU Department Store
10. การเดินทางในเมืองคาโกชิม่า Cute
บัตรพาส Cute ราคา 1,200 เยน สามารถหาซื้อได้ตามสถานีหรือศูนย์แนะนำการท่องเที่ยว
สามารถนั่งได้ทั้งรถบัส รถราง เรือเฟอร์รี่ สามารถไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ในเมืองได้เลย เช่นที่กล่าวด้านบน จุดชมวิว Shiroyama เฟอร์รี่ไปภูเขาไฟSakurajima สวน Sengan-en
11. มรดกทางธรรมชาติของโลก เกาะยะคุชิมะ (Yakushima)
การเดินทางมายังเกาะยะคุชิมะ หากเดินทางจากโอซาก้าและฟุกุโอกะจะมีเที่ยวบินตรงมายังสนามบินยะคุชิมะ หรือนั่งเรือเฟอร์รี่จากตัวเมืองคาโกชิม่าไป 2ชม.
สัญลักษณ์ของเกาะยะคุชิมะ คือ ต้นสนโจมอนสึกิ(Jomon-sugi) ซึ่งเป็นต้นไม้ยักษ์โบราณที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งว่ากันว่ามีอายุถึงมากกว่า 2,000 ปี
ถ้าใครมีร่างกายที่พร้อมลุยเดินป่า แนะนำที่นี่เลยจริงๆ
อยากไปคาโกชิม่าขึ้นมาบ้างหรือยัง…สำหรับใครที่จะมาซ่อมที่คิวชูก็เอาลงตารางได้เลย!!!
Photo by: “Kagoshima Convention & Visitors Bureau“ and “Kagoshima City”